Protocol

โปรโตคอล คืออะไร

และภาษาในการสื่อสารกันในอุปกรณ์ต่างๆ มีอะไรบ้าง


Protocol (โปรโตคอล) นั้นคืออะไร มีหน้าที่อะไร ใช้ทำอะไร มีกี่ชนิด และเกี่ยวอะไรกับ Internet of things เหมือนเดิมครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง โปรโตคอล ให้ฟังว่ามันเป็นยังไงกันแน่มันมีความสำคัญขนาดไหนมีประโยชน์อย่างไรกัน

Protocol คืออะไร

Protocol (โปรโตคอล) คือข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ หรือพูดให้เขาใจง่ายๆก็คือภาษาในการสื่อสารระของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทำให้สามารถติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างกันได้อย่างสะดวก ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นๆจะเป็นรุ่นเดียวกันหรือไม่ ในระบบเครือขาย โปรโตคอลมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนภาษาและการสื่อสารที่ทำให้อุปกรณ์ในเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าไหร่หรือรุ่นไหนก็ตาม โปรโตคอลนั้นมีหลากมายชนิดมีความสามารถที่แตกต่างกันสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายประเภทตามความเหมาะสม

IOT ที่เราได้อธิบายในบทความที่ผ่านมา อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า คือการนำอุปกรณ์ทุกชนิดมาเชื่อมต่อเข้ามากันผ่านระบบเครือข่ายดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ โปรโตคอลในการสื่อสารกันนั่นเองโดยมีหลากหลายชนิดให้เราได้เลือกใช้ วันนี้ผมจะมาอธิบายว่า โปรโตคอลที่นิยมใช้กับ IOT นั้นมีอะไรกันบ้าง…

TCP/IP

What is


TCP/IP ย่อมาจาก Transmission Control Protocol / Internet Protocol โดย TCP เป็นโปรโตคอลที่ใช้ใน Internet Protocol Suite มันคือโปรโตคอลหรือข้อกำหนดในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์บนอินเตอร์เน็ตซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การทำงาน TCP ทำหน้าที่จัดการข้อมูล เรียงลำดับ ตรวจสอบข้อผิดพลาด ระหว่างการรับส่งข้อมูลของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันด้วย IP Network

จุดกำเนิดของ TCP เกิดจาก IEEE : (Institute of Electrical and Electronic Engineers) ได้ตีพิมพ์บทความที่เขียนขึ้นโดย Vint Cerf และ Bob Kahn ซึ่งได้อธิบายการแบ่งทรัพยากร โดย Packet-Switching ระหว่างอุปกรณ์ควบคุมโดย Transmission Control Program และได้พัฒนาต่อโดยให้ Module TCP ทำหน้าที่ในระดับ connection-oriented layer (Transaport layer) และ IP ทำหน้าที่ในระดับ internetworking layer (Network layer) ซึ่งได้กลายมาเป็น TCP/IP ในปัจจุบัน

TCP/IP
MODBUS

MODBUS

Protocol

What is


Modbus คือโปรโตคอลการสื่อสารรูปแบบอนุกรมแบบดิจิตอลอีกรูปแบบหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท Modicon System โดยถูกพัฒนาขึ้นในปี 1979 ซึ่งปัจจุบันคือบริษัท Schneider Electric มีหลักการทำงานที่ง่ายไม่ซับซ้อน โดยจะมี ModbusMaster รับข้อมูลและ ModbusSlave ส่งข้อมูล โดยมาตรฐานแล้วใน Modbus Network จะมี ModbusMaster 1 ตัว ต่อ ModbusSlave 247 ตัว โดย Modbus นั้นเป็น Open Protocol กล่าวคือมันเป็นโปรโตคอลที่บุคคลทั่วไปที่สนใจสามารถนำไปใช้หรือพัฒนาต่อยอดได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ จึงทำให้มันเป็นโปรโตคอลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นที่นิยมและพื่นฐานของการสื่อสารในอุตสาหกรรมทุกประเภท

CAN BUS

Protocol

What is


CAN BUS ย่อมาจาก control Area Network เป็นโปรโตคอลที่ออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมยานพาหนะเป็นหลัก เนื่องจากมีติดต่อสื่อสารและการรับส่งข้อมูลกับโมดูลต่างๆ ที่รวดเร็ว มันจึงเป็นที่นิยมนำมาใช้กับสถาปัตยกรรมยานยนต์สมัยใหม่

มันสนับสนุนการสื่อสารแบบ Real-time ภายใต้ความปลอดภัยสูง CAN bus สื่อสารกันโดยใช้สายไฟสองสาย เรียกสายแรกว่า CAN High และอีกสายคือ CAN Low โดยเมื่อทั้งสองอยู่ในสภาวะว่าง จะมีแรงดันไฟ 2.5V แต่เมื่อต้องการส่งข้อมูล Bit ไปนั้น สาย CAN High จะมีแรงดันไฟสูงขึ้นเป็น 3.75V ส่วน CAN Low แรงดันจะลดลงไปเหลือ 1.25 V นั่นคือมีความต่างศักย์อยู่ที่ 2.5V ด้วยวิธีนี้ ส่งผลให้ CAN Bus ถูกรบกวนจากสนามแม่เหล็ก หรือสัญญาณกวนใดๆ น้อยมาก จึงทำให้เสถียร และมักถูกนำมาใช้ในการส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่างๆ จึงนิยมใช้ในเครือข่ายการติดต่อสื่อสารกันระหว่างไมโครคอทโทรเลอร์ (Micro Controller Unit : MCU) 

Robert Bosch ได้พัฒนา CAN ขึ้นในช่วงปี 1984 หลังจากนั้นปะ 1992 Benz ได้นำมันไปใช้ในรถยนต์หลายๆ รุ่น ต่อมามีการพัฒนา CAN เรื่อยมาจนกระทั้งปี 2008 รถยนต์ในสหรัฐเกือบทั้งหมดได้หันมาใช้ CAN BUS ถือได้ว่ามันกลายเป็น โปรโตคอลหลักของอุตสาหกรรมรถยนต์ตั้งแต่นั้นมา แต่กระนั้นใช่ว่าจะมีเพียงอุตสาหกรรมรถยนต์เท่านั้นที่นำ CAN BUS มาใช้ปัจจุปันมีการใช้งาน CAN BUS อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องการความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูล

CAN BUS
CANOpen

CANOpen

Protocol 

What is


CANOpen ถูกพัฒนามาจาก CAN ให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นทั้งระยะทาง และความเร็วในการส่งข้อมูล พัฒนาโดย CiA(CAN in Automation) และแต่ละโหนดสามารถติต่อสือสารกันได้เอง โดยจำเป็นต้องผ่าน Master เป็นการลดจำนวนอุปกรณ์ให้น้อยลง โดยในระบบพื้นฐานสามารถเชื่อมต่อกันได้ถึง 127 จุด มีระยะรับส่งข้อมูลสูงสุด 5000 เมตร และความเร็วที่ 1Mbps มันเหมาะกับระบบควมคุมและระบบอัตโนมัติจึงได้ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย

DeviceNet

Protocol

What is


DeviceNet ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก CAN bus (Controller Area Network) ที่ใช้กันอยู่ในวงการ Automotive สำหรับใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ Devicenet Network ถูกนำมาแทนการเดินสายเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แบบเดิม ข้อดีคือช่วยลดเวลา ความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายของการเดินสาย การคอนฟิกค่าและการเข้าถึงข้อมูลในตัวอุปกรณ์ทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นมาก มันเป็นทางเลิกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสื่อสารในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการลดต้นทุนในการเดินสาย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ วันนี้เราได้ทราบถึงโปรโตคอล คืออะไร ทำหน้าที่อะไร และทราบถึงโปรโตคอลชนิดต่างๆ หลากหลายชนิด แต่ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ ยังมีโปรโตคอลที่น่าสนใจอีกหลากหลายตัว ที่ในอุตสาหกรรมใช้งาน ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแต่ต่างกันออกไป

DeviceNet

Related Product

สนใจต้องการ

สอบถามเพิ่มเติม

ด้วยทีมงานมากประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษา ไว้วางใจให้เราเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ

Related Solutions

Zigbee คือ Technology การสื่อสารระยะไกลที่ประหยัดพลังงาน ยุค 4.0
  Zigbee คือ Technology การสื่อสารระยะไกล ที่ประหยัดพลังงาน Zigbee คือเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายที่ออกแบบมาให้ใช้พลังงานต่ำแต่ส่งข้อมูลได้ไกล...
Gateway คืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง ทำไมจึงสำคัญต่อระบบการผลิต
Gateway คือ ทำหน้าที่อะไรบ้าง ทำไมจึงสำคัญต่อระบบการผลิต Gateway คืออะไรทำหน้าที่อะไร มันมีความสำคัญอย่างไร Gateway คือ...
Protocol โปรโตคอล คืออะไร และภาษาในการสื่อสารกันในอุปกรณ์ต่างๆ
Protocol โปรโตคอล คืออะไร และภาษาในการสื่อสารกันในอุปกรณ์ต่างๆ มีอะไรบ้าง Protocol (โปรโตคอล) นั้นคืออะไร...