การตรวจวัดคุณภาพอากาศ
AIR QUALITY MONITORING
มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์
ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือด
โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และบุคคลที่มีภาวะ
ทางเดินหายใจอยู่ก่อนแล้ว และทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ
โรคปอด และโรคมะเร็ง การตรวจสอบคุณภาพอากาศช่วยระบุระดับ
มลพิษ และความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ทำให้สามารถเตือน
และใช้มาตรการป้องกันได้ทันท่วงที เพื่อปกป้องสุขภาพ
ของประชากรในพื้นที่
การตรวจสอบคุณภาพอากาศ
Air Quality Monitoring
มีบทบาทสำคัญในการปกป้องสุขภาพของประชากร
วัตถุประสงค์หลักของการตรวจวัดคุณภาพอากาศ
คือการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระดับความเข้มข้นของ
สารมลพิษทางอากาศต่างๆ ที่เป็นอันตรายเพื่อประเมิน
คุณภาพของอากาศในสถานที่ หรือพื้นที่นั้นๆ ข้อมูลนี้มี
ความสำคัญต่อการทำความเข้าใจความเสี่ยงด้านสุขภาพ
และแนวทางการตัดสินใจเพื่อดำเนินการ หรือกำหนด
นโยบายที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสุขภาพของประชากร
ในพื้นที่ รวมถึงประเมินประสิทธิผลของมาตรการ
ควบคุมมลพิษที่มีอยู่แล้วอีกด้วย
วิธีการ
ตรวจสอบคุณภาพอากาศ
สามารถทำได้โดย
การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
เป็นการใช้เซ็นเซอร์และเครื่องมือ เพื่อรวบรวม
ข้อมูลอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ระบบนี้นำเสนอ
ข้อมูลล่าสุดของมลพิษต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง
(PM2.5, PM10), แอมโมเนีย (NH3), ไฮโดรเจนซัลไฟด์
(H2S),ฟอร์มาลดีไฮด์ (HCHO), โอโซน (O3),
คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (TVOC)
การสุ่มตัวอย่างแบบพาสซีฟ
เก็บตัวอย่างอากาศในช่วงเวลาที่กำหนด
ซึ่งมักจะเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพื่อตรวจสอบ
ความเข้มข้นเฉลี่ยของสารมลพิษในระยะยาว
การสุ่มตัวอย่างแบบพาสซีฟช่วยในการระบุแนวโน้ม
และประเมินประสิทธิผลของกลยุทธ์
การควบคุมมลพิษในระยะยาว
การสำรวจระยะไกล
ใช้เทคโนโลยีผ่านดาวเทียมและภาคพื้น
เพื่อการตรวจสอบพื้นที่ขนาดใหญ่
ระดับภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
โดยการใช้เซ็นเซอร์หรือเครื่องมือวัดต่าง ๆ
เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับภาคประชาชน องค์กร
และในสถานที่เฉพาะเป็นอย่างมาก
ข้อมูลที่รวบรวมผ่านการตรวจวัดคุณภาพอากาศมักถูกแปลง
ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI)
เพื่อให้ประชากรทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่
เกณฑ์ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย
Air Quality Index : AQI
0-25
อากาศดีมาก
สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง
และการท่องเที่ยวได้ตามปกติ
26-50
อากาศดี
สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง
และการท่องเที่ยวได้ตามปกติ
51-100
ปานกลาง
ประชาชนทั่วไป: ทำกิจกรรมกลางแจ้งตามปกติ
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ: ถ้ามีอาการเบื้องต้น
เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะ
เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
101-200
เริ่มมีผลต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป: เฝ้าระวังสุขภาพ
ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ: ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการไอ ปวดหัว
ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ฯ ควรปรึกษาแพทย์
200 ขึ้นไป
มีผลต่อสุขภาพ
ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง พื้นที่ที่มี
มลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
หากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควร
ปรึกษาแพทย์
ตารางค่าความเข้มข้นของ
สารมลพิษทางอากาศ
ที่เทียบเท่ากับค่าดัชนีคุณภาพอากาศ
ข้อมูลจาก กองจัดการคุรภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ
ข้อมูลคุณภาพอากาศที่แม่นยำและทันท่วงที
ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สามารถป้องกันตนเองได้
ผู้รับผิดชอบสามารถออกคำเตือน กำหนดวิธีการแก้ไข
และปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยรวมได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
การตรวจสอบคุณภาพอากาศเป็นเครื่องมือสำคัญ
ในการปกป้องสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
เราสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีค่า เพื่อระบุแหล่งที่มาของมลพิษ
ประเมินประสิทธิผลของมาตรการควบคุมมลพิษและตัดสินใจ
อย่างรอบรู้เพื่ออนาคตที่ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน และการรับรู้
ของสาธารณชนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรงจากการตรวจวัด
คุณภาพอากาศ จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ซึ่งมีส่วนสำคัญ
ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยรวมในชุมชนของตนเอง